PRIVACY NOTICE

นโยบายความเป็นส่วนตัว (PRIVACY POLICY)

บทนำ

บริษัท ซีนิธคอมพ์ จำกัด (“บริษัท” หรือ “เรา”) เราได้ตระหนักถึงหน้าที่รับผิดชอบภายใต้กฎหมายและข้อบังคับความเป็นส่วนตัวที่บังคับใช้ตามมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประเทศไทย (TH-PDPA) และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแห่งสหภาพยุโรป (GDPR) อย่างจริงจัง และยึดมั่นต่อการเคารพสิทธิและให้ความสำคัญเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวของคุณ

บริษัทตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (“คุณ”) มอบให้แก่เรา ซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว (Sensitive Personal Data) เพื่อใช้ในการติดต่อเรา หรือใช้บริการของเรา หรือเข้าใช้งานเว็บไซต์ของเรา หรือเข้าใช้แอปพลิเคชั่นบนอุปกรณ์มือถือของเรา (ซึ่งเรียกร่วมกันว่า “บริการ”) และเชื่อว่าเรามีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการ ปกป้อง และดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอย่างเหมาะสม

นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ (“นโยบาย”) ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณเข้าใจเกี่ยวกับวีธีการที่เราเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือดำเนินการกับข้อมูลส่วนบุคคลที่คุณมอบให้แก่เรา และ/หรือข้อมูลของคุณที่เราครอบครองไม่ว่าจะในปัจจุบันหรืออนาคต รวมทั้งใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนที่คุณจะให้ข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ แก่เรา ดังนั้นโปรดอ่านนโยบายนี้โดยละเอียด หากคุณมีข้อสงสัยเกี่ยวข้องกับข้อมูลเหล่านี้ หรือข้อปฏิบัติว่าด้วยความเป็นส่วนตัวของเรา โปรดดูส่วนของห้วข้อ “มีคำถาม ข้อกังวล หรือคำร้องเรียน โปรดติดต่อเรา” ในตอนท้ายของนโยบายนี้

1.คำนิยามศัพท์

1.1. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัททำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย หมายถึง ข้อมูลที่สามารถระบุถึงตัวเจ้าของข้อมูลหรือทำให้ระบุถึงตัวเจ้าของข้อมูลได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรม ไม่ว่าเจ้าของข้อมูลได้ให้ข้อมูลไว้หรือมีอยู่กับบริษัท หรือบริษัทได้รับ หรือเข้าถึงได้จากแหล่งอื่น เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์, กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย, กรมการกงสุล กระทรวงต่างประเทศ, กรมบังคับคดี กระทรวงยุติธรรม, หน่วยงานราชการทั้งในประเทศและต่างประเทศ, องค์กรระหว่างประเทศ, ที่ปรึกษาของบริษัท, คู่ธุรกิจ/คู่ค้า, พันธมิตรทางธุรกิจ, หน่วยงาน องค์กร นิติบุคคลใด ๆ ที่มีสัญญากับบริษัทหรือที่มีนิติสัมพันธ์กับบริษัท, บุคคลที่เจ้าของข้อมูลแต่งตั้งหรือให้เป็นตัวแทน หรือแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่นใด

1.2. “เว็บไซต์” หมายถึง เว็บไซต์ที่มีที่อยู่เว็บไซต์ (Web Address) ภายใต้โดเมน zenithcomp.co.th หรืออยู่ใต้การกำกับดูแลของบริษัท เพื่อดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เช่น www.zenithcomp.co.th เป็นต้น

1.3. “แอปพลิเคชั่นบนอุปกรณ์มือถือ” หมายถึง แอปพลิเคชั่นที่บริษัทได้พัฒนาขึ้นเองหรือจ้างพัฒนาขึ้นเพื่อทำงานบนอุปกรณ์มือถือ ภายใต้การกำกับดูแลของบริษัท เพื่อดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบริษัท เช่น ZNC Contact เป็นต้น

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัททำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย จะรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง

2.1. ข้อมูลรายละเอียดส่วนบุคคลทั่วไปที่เป็นการแสดงตัวตน ซึ่งหมายถึงข้อมูลที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของคุณได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ขื่อนามสกุล, เพศ, วันเดือนปีเกิด, อายุ, สัญชาติ, ข้อมูลสถานภาพสมรส, ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาและความสามารถ

2.2. ข้อมูลรายละเอียดสำหรับติดต่อคุณ เช่น ที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์, หมายเลขโทรสาร, บัญชี Social Media, ข้อมูลอื่นใดในทำนองเดียวกันที่ใช้เพื่อการติดต่อเจ้าข้อมูลได้

2.3. ข้อมูลบันทึกการโต้ตอบ และสื่อสารระหว่างกัน ไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบหรือวิธีการใด ๆ ก็ตาม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง โทรศัพท์ อีเมล ข้อมูลความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media)

2.4. ข้อมูลรายละเอียดที่ใช้ในการระบุตัวตนและการยืนยันตัวตน เช่น รูปภาพ, ภาพถ่าย/สำเนาบัตรประชาชน, เลขบัตรประจำตัวประชาชน, ข้อมูลหนังสือเดินทาง, ลายมือชื่อ

2.5. ข้อมูลความชื่นชอบหรือประวัติการใช้งานของคุณในการค้นหาข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต เช่น การค้นหาข้อมูลผลิตภัณฑ์จากเว็บไซต์ของบริษัท การเก็บรวบรวมผ่านเว็บคุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน หรือการใช้แอปพลิเคชั่นบนอุปกรณ์มือถือของบริษัท

2.6. ข้อมูลการติดต่อกับบริษัท เช่น บันทึกภาพและ/หรือเสียงการเข้ามาติดต่อบริษัทผ่านกล้องวงจรปิด (CCTV)

2.7. ข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ ของบริษัท เช่น ข้อมูลการลงทะเบียนเข้าร่วมงานสัมมนาหรือจัดอบรม, ข้อมูลการประเมินความพึงพอใจ, ข้อมูลภาพการเข้าร่วมกิจกรรมภายในงาน, ข้อมูลจากแบบสำรวจ

2.8. สำหรับลูกค้าของบริษัท มีข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้

2.8.1. ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณกับบริษัท เช่น ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการที่คุณใช้อยู่, ช่องทางและวิธีการที่คุณปฏิสัมพันธ์กับเรา, สถานะความเป็นลูกค้า, ประวัติการสั่งซื้อ การส่งสินค้า และการชำระหนี้, ความคิดเห็นหรือร้องเรียน

2.8.2. ข้อมูลการดำเนินการผ่านบริการของเรา เช่น ข้อมูลการเข้าใช้ระบบหรือแอปพลิเคชั่นของเรา, ข้อมูลการทำธุรกรรมกับเรา หรือขอใช้บริการของเรา

2.9. สำหรับคู่ธุรกิจ/คู่ค้า หรือพันธมิตรธุรกิจ มีข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้

2.9.1. ข้อมูลทางการเงินหรือข้อมูลการทำธุรกรรมของคุณกับบริษัท เช่น หมายเลขบัญชีเงินฝาก, รายการข้อมูลโอนเงินหรือชำระค่าสินค้าและบริการต่าง ๆ

2.9.2. ข้อมูลการติดต่อ หรือการใช้ หรือการรับบริการ เช่น ข้อมูลการติดต่อผ่านอีเมลหรือเอกสารต่างๆ ข้อมูลการขอใช้ระบบหรือแอปพลิเคชั่น, ข้อมูลการได้รับบริการ

2.10. สำหรับพนักงาน อดีตพนักงาน นักศึกษาฝึกงาน ผู้สมัครงาน มีข้อมูลเพิ่มเติม ดังนี้ (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในประกาศความเป็นส่วนตัวของพนักงาน)

2.10.1. ข้อมูลระบุตัวตนเพิ่มเติม เช่น ลักษณะรูปพรรณสัณฐานบุคคล, ใบอนุญาตขับรถ, ข้อมูลเกี่ยวกับภาระทางทหาร รวมถึงข้อมูลอ่อนไหว เช่น ข้อมูลชีวภาพ (ลายนิ้วมือ, ข้อมูลภาพจำลองใบหน้า), ประวัติอาชญากรรม, ข้อมูลสุขภาพ, ศาสนา, เชื้อชาติ, กรุ๊ปเลือด, เป็นต้น

2.10.2. ข้อมูลประสบการณ์การทำงานก่อนเข้าทำงานกับเรา เช่น อาชีพ, รายเอียดเกี่ยวกับนายจ้าง, ตำแหน่ง, เงินเดือน, ค่าตอบแทน, สวัสดิการที่เคยได้รับ, รายละเอียดเกี่ยวกับบุคคลอ้างอิง (คุณจะต้องมั่นใจว่ามีสิทธิที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านี้ ได้แจ้งนโยบายนี้ให้บุคคลเหล่านี้ทราบ และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนี้ในการติดต่อ)

2.10.3. ข้อมูลประวัติการทำงานระหว่างอยู่กับเรา เช่น ตำแหน่ง, อายุงาน, เงินเดือน, ค่าตอบแทน, ประวัติการขาด/ลา/มาสาย

2.10.4. ข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีเงินฝาก, รายการข้อมูลโอนเงินเดือนเข้าบัญชี, ข้อมูลภาษี, รายการยกเว้นหรือการหักลดหย่อนทางภาษี, กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, การกู้ยืมเงิน

2.10.5. ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิกในครวบครัวหรือผู้สูงอายุในความดูแล ที่มีสิทธิได้รับสวัสดิการตามข้อบังคับและระเบียบของบริษัท เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับคู่สมรส ข้อมูลเกี่ยวกับบุตร ข้อมูลเกี่ยวกับบิดามารดา ผู้รับผลประโยชน์ (คุณจะต้องมั่นใจว่ามีสิทธิที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านี้ ได้แจ้งนโยบายนี้ให้บุคคลเหล่านี้ทราบ และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลนี้ในการติดต่อ)

2.10.6. ข้อมูลจากการสังเกต ประเมินหรือวิเคราะห์ เช่น นิสัย, พฤติกรรม, ทัศนคติ, ความถนัด, ทักษะ, ภาวะความเป็นผู้นำ, ความสามารถในการทำงานร่วมกับผู้อื่น, ความฉลาดทางอารมณ์, ความผูกผันกับองค์กร

2.10.7. ข้อมูลทางภูมิศาสตร์และข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และซอฟแวร์ของคุณ เช่น ตำแหน่งพิกัด/GPS ของคุณขณะทำธุรกรรมในแอปพลิเคชั่นของบริษัท, หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์, ข้อมูลเฉพาะทางเทคนิคที่ใช้ระบุตัวตน

2.10.8. ข้อมูลความคิดเห็น ความสนใจ คำขอหรือร้องเรียน

2.11. ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคล ในกรณีที่ผู้ติดต่อ คู่สัญญาหรือผู้ที่มีนิติสัมพันธ์กับบริษัทเป็นนิติบุคคล และได้เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคล เช่น พนักงาน บุคลากร เจ้าหน้าที่ ผู้แทน ผู้ถือหุ้น กรรมการ บุคคลที่มีอำนาจ ผู้ติดต่อ ตัวแทน หรือบุคคลธรรมดาอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับนิติบุคคลนั้น ทั้งนี้ นิติบุคคลดังกล่าวจะต้องมั่นใจว่ามีสิทธิที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านี้ และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายฉบับนี้ได้

3. บริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเมื่อใด

3.1. เมื่อคุณติดต่อกับเราผ่านทางโทรศัพท์ จดหมาย แฟกซ์ การประชุมแบบเห็นหน้ากัน แพลตฟอร์มสื่อทางสังคม และอีเมล์

3.2. เมื่อมีการพบปะ ติดต่อ และแลกเปลี่ยนนามบัตรของคุณกับเรา

3.3. เมื่อคุณเข้ามาติดต่อที่บริษัท หรือเข้ารับการอบรมที่เราจัดขึ้น หรือเข้าร่วมงานสัมมนาที่เราจัดขึ้น

3.4. เมื่อคุณเข้าถึง และ/หรือใช้บริการ หรือลงทะเบียน หรือติดต่อกับเราผ่านทางเว็บไซต์ของเรา ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การเก็บรวบรวมผ่านเว็บ4.4และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน ซึ่งอาจมีการปรับใช้เมื่อคุณใช้บริการหรือเข้าถึงเว็บไซต์ของเรา

3.5. เมื่อคุณส่งแบบฟอร์ม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง แบบฟอร์มการสมัครหรือแบบฟอร์มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์และบริการของเรา ไม่ว่าจะแบบออนไลน์ หรือแบบฟอร์มเอกสาร

3.6. เมื่อคุณดำเนินธุรกรรมผ่านบริการของเรา

3.7. เมื่อคุณติดตั้งแอปพลิเคชั่นของเราบนคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่น และ/หรือใช้แอปพลิเคชั่นนั้นเพื่อเข้าถึงหรือเกี่ยวข้องกับบริการของเรา

3.8. เมื่อคุณให้ความคิดเห็นหรือคำร้องเรียนแก่เรา

3.9. เมื่อคุณคุณส่งข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้แก่เรา ด้วยเหตุผลใดก็ตาม

โดยปกติแล้วเราจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากคุณโดยตรง แต่ในบางกรณีเราอาจได้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณมาจากแหล่งอื่น ซึ่งเราจะดำเนินการให้เป็นไปตามที่พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ข้อมูลส่วนบุคคลที่เราเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่น อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะดังต่อไปนี้

  • ข้อมูลที่เราได้รับจากคู่ธุรกิจ/คู่ค้า พันธมิตรธุรกิจ และ/หรือบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นใดที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย
  • ข้อมูลที่เราได้รับจากบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง/เกี่ยวเนื่องกับคุณ (เช่น ครอบครัวของคุณ เพื่อน ผู้แนะนำ)
  • ข้อมูลที่เราได้รับจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล และ/หรือผู้ให้บริการภายนอก (เช่น ข้อมูลที่เปิดเผยต่อสาธารณะ ข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรม)

4. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัททำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เพื่อประโยชน์ในการทำธุรกรรม/หรือการใช้บริการกับบริษัท เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อวัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมายตามความจำเป็นของบริษัท และ/หรือเพื่อประโยชน์อื่นใดที่คุณได้ให้ความยินยอมแก่เราไว้ โดยเราจะเก็บรักษาข้อมูลของคุณตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของบริษัท โดยคุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ ดังนี้

4.1. การปฏิบัติตามวัตถุประสงค์หรือประโยชน์อื่นใด ที่คุณได้ให้ความยินยอมไว้แก่เรา ในแต่ละคราว

4.2. การปฏิบัติตามสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างบริษัทกับคุณ เพื่อประโยชน์ในการทำธุรกรรม/หรือการใช้บริการ ได้แก่

4.2.1. เพื่อการเสนอราคา และ/หรือใช้ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของบริษัท รวมถึงการปฏิบัติตามกระบวนการภายในของเราที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติคำขอเสนอราคา หรือใช้ผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ ของบริษัท การรับหรือส่งเอกสารระหว่างคุณกับบริษัท

4.2.2. เพื่อการจัดส่งสินค้าและบริการ การพัฒนาปรับปรุงสินค้าและบริการ รวมถึงการดำเนินการบำรุงรักษา และการแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานสินค้าและบริการต่าง ๆ ของบริษัท

4.2.3. เพื่อการติดตามทวงถามหนี้

4.2.4. เพื่อการเปิดเผยให้แก่ตัวแทน ผู้รับจ้าง/ผู้รับจ้างช่วง และผู้ให้บริการสำหรับการดำเนินงานใด ๆ ที่ตกลงกันภายใต้สัญญาหรือข้อตกลงระหว่างบริษัทกับคุณ

4.3. การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่

4.3.1. เพื่อปฏิบัติตามข้อผูกผันทางกฎหมายและข้อเรียกร้องการบังคับใช้กฎหมาย รวมถึงการรายงานข้อมูลต่อหน่วยงานราชการตามกฎหมาย เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร ศาล หรือเมื่อได้รับคำสั่ง/หมาย/หนังสือแจ้งให้ดำเนินการใด ๆ ที่อาศัยอำนาจตามกฎหมายของหน่วยงานนั้น

4.3.2. เพื่อป้องกันและตรวจสอบการดำเนินการในลักษณะที่เป็นการฉ้อฉล การฟอกเงิน การสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย การกระทำผิดทางอาญา หรือการกระทำอื่นใดที่ไม่ขอบด้วยกฎหมาย

4.3.3. เพื่อการสืบสวน สอบสวน หรือกระบวนการทางกฎหมายอื่นใด

4.3.4. เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

4.4. วัตถุประสงค์ที่ชอบด้วยกฎหมายตามความจำเป็นของบริษัท และ/หรือเพื่อประโยชน์อื่นใดที่คุณจะได้รับ ได้แก่

4.4.1. เพื่อการประชาสัมพันธ์ แจ้งข้อมูลข่าวสาร และนำเสนอ เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ บริการ กิจกรรมทางการตลาด รายการส่งเสริมการขาย แคมเปญ สิทธิประโยชน์ และข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ ของบริษัท

4.4.2. เพื่อรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าของบริษัท เช่น การดำเนินการเกี่ยวกับการสอบถามข้อมูล การจัดการข้อร้องเรียน การสำรวจความพึงพอใจและการประเมิน ปรับปรุง และพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการต่าง ๆ การเสนอสิทธิประโยชน์โดยไม่มีวัตถุประสงค์ทางการตลาด

4.4.3. เพื่อดำเนินการวางแผนงาน การรายงาน และการคาดการณ์ทางธุกิจ

4.4.4. เพื่อการบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ และการบริหารจัดการภายในบริษัท

4.4.5. เพื่อการป้องกัน รับมือ ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดจากการกระทำผิดกฎหมายต่าง ๆ

4.4.6. เพื่อการตรวจสอบการรับส่งอีเมลหรือการใช้อินเตอร์เน็ต เพื่อป้องกันการเปิดเผยข้อมูลโดยมิชอบ

4.4.7. เพื่อการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัท รวมถึงการบันทึกภาพผู้ที่มาติดต่อกับบริษัทด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV)

4.4.8. เพื่อให้เว็บไซต์ของเราสามารถจดจำคุณ (ผ่านการเก็บรวบรวมคุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน) ซึ่งจะช่วยให้เราทราบถึงความชื่นชอบของคุณ ช่วยให้เราสามารถปรับปรุงฟังก์ชันพื้นฐานของระบบให้สามารถทำงานหรือบริการคุณได้ ช่วยให้เราเข้าใจวิธีการที่คุณใช้งานเว็บไซต์ของเรา ช่วยให้เราสามารถมอบประสบการณ์ผ่านช่องทางออนไลน์หรือการติดต่อสื่อสารกับคุณได้ดียิ่งขึ้น

4.5. สำหรับพนักงาน อดีตพนักงาน นักศึกษาฝึกงาน ผู้สมัครงาน มีวัตถุประสงค์เพิ่มเติม ดังนี้

4.5.1. เพื่อให้สามารถดำเนินการตามคำขอของพนักงานก่อนเข้าทำสัญญา หรือการปฏิบัติตามสัญญาจ้างงาน หรือการปฏิบัติตามข้อบังคับหรือระเบียบการบริหารงานบุคคลของบริษัท เช่น การมอบหมายงาน การโยกย้าย การส่งพนักงานไปปฏิบัติงานในองค์กรอื่น (Secondment) การฝึกอบรม การประเมินผลการปฏิบัติงาน การพิจารณาตำแหน่งงานและค่าตอบแทน การบริหารดูแลสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงาน

4.5.2. เพื่อให้สามารถปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น กฎหมายคุ้มครองแรงงาน กฎหมายแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายประกันสังคม กฎหมายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน กฎหมายควบคุมการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม กฎหมายควบคุมโรคติดต่อ

4.5.3. เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย เช่น การศึกษาวิเคราะห์และจัดสรรกำลังคน การพัฒนาและฝีกอบรม การจัดสวัสดิการการรักษาพยาบาล การจัดสวัสดิการด้านการประกันภัย การดำเนินเรื่องงานกิจกรรมพนักงาน การบริหารด้านการเงินและงบประมาณ การติดต่อภายในและการติดต่อกับบุคคลภายนอก การจัดทำหนังสือรับรอง การปรับปรุงสภาพแวดล้อมในการทำงานและสิ่งอำนวยความสะดวก การรักษาความมั่นคงปลอดภัยทางสารสนเทศ การรักษาความปลอดภัย การป้องกันอุบัติเหตุและอาชญากรรม การตรวจสอบหรือจัดการเกี่ยวกับข้อร้องเรียนและการทุจริต การดูแลพนักงานหลังพ้นสภาพการเป็นพนักงาน

4.5.4. เพื่อป้องกันและระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน การควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ

ทั้งนี้ บริษัทจะไม่สามารถส่งมอบสินค้าและ/หรือให้บริการแก่คุณได้ (หรือไม่สามารถส่งมอบสินค้าและ/หรือให้บริการแก่คุณต่อไปได้) หากบริษัทไม่สามารถเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเมื่อมีการร้องขอ หากคุณไม่ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณแก่บริษัท ซึ่งข้อมูลเหล่านั้นจำเป็นต่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎเกณฑ์จำเป็นต่อการปฏิบัติตามสัญญาหรือข้อตกลงซึ่งคุณเป็นคู่สัญญา หรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอก่อนเข้าทำสัญญา

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ

ภายใต้วัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ข้างต้น หากคุณได้ให้ความยินยอม หรือเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาซึ่งคุณเป็นคู่สัญญา เพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอของคุณก่อนเข้าทำสัญญา เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายหรือกฎเกณฑ์ เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของคุณ หรือเป็นการกระทำตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของคุณ หรือเป็นไปตามความจำเป็นเพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ เราอาจส่ง โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใดๆ ไปยังบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น เช่น

  • คู่ธุรกิจ/คู่ค้า พันธมิตรธุรกิจ
  • หน่วยงานของรัฐ และ/หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล (เช่น กรมสรรพากร กระทรวงการคลัง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม)
  • สถาบันการเงิน/ธนาคาร (เช่น กรณีขอออกหนังสือสัญญาค้ำประกัน, จัดทำเอกสารขออนุมัติการเช่าซื้อ เช่าใช้)
  • โรงพยาบาล และหน่วยงานกู้ชีพ/กู้ภัย (กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน)
  • บุคคลอื่นใดที่บริษัทมีนิติสัมพันธ์ด้วย รวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ทนายความ ที่ปรึกษาบริษัท ผู้ตรวจสอบบัญชี
  • ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ตัวแทน หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของคุณที่มีอำนาจตามกฎหมายโดยชอบ

สำหรับพนักงาน ให้รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง

  • บริษัทประกันภัย
  • โรงพยาบาล (กรณีส่งไปตรวจร่างกาย)
  • กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  • บริษัทให้บริการจัดทำนามบัตร
  • บริษัทรักษาความปลอดภัย
  • บริษัทให้บริการหรือพัฒนาระบบสารสนเทศ
  • บุคคลหรือนิติบุคคลอื่นที่จำเป็นสำหรับการดำเนินธุรกิจและ/หรือให้บริการแก่พนักงาน

และเนื่องจากบริษัทมีการทำธุรกิจกับผู้ผลิต/จำหน่ายผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ ในต่างประเทศ ดังนั้นเราอาจจำเป็นต้องส่ง โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ไปยังบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นในต่างประเทศ ซึ่งอาจเป็นประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอได้ ซึ่งเราจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการส่ง โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังคู่ธุรกิจ/คู่ค้า พันธมิตรธุรกิจ ผู้ให้บริการ หรือผู้รับข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ ด้วยวิธิการที่ปลอดภัยที่สุด เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ซึ่งการส่ง โอน หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เราจะดำเนินการเมื่อเป็นกรณีดังต่อไปนี้

  • เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
  • ได้แจ้งให้คุณทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทาง และได้รับความยินยอมจากคุณแล้ว
  • ปฏิบัติตามสัญญาที่คุณทำไว้กับบริษัท หรือตามคำขอของคุณก่อนการเข้าทำสัญญา
  • ปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของคุณ
  • เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
  • ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของคุณหรือบุคคลอื่น เมื่อคุณไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
  • ดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ
6. สิทธิของคุณตามกฎหมาย

ภายใต้กฎหมายและกฎเกณฑ์ หรือบทบัญญัติของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือกฎระเบียบที่ใช้บังคับ คุณมีสิทธิที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ดังนี้

6.1. สิทธิในการถอนความยินยอม

คุณมีสิทธิเพิกถอนความยินยอมที่จะให้ได้หรือได้ให้ไว้เรา ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่ การถอนความยินยอมจะมีข้อจำกัดโดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่คุณ

บริษัทมีสิทธิในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่เราได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลบังคับใช้ ต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากคุณไม่ความประสงค์ที่จะให้เราเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป คุณสามารถแจ้งเรา เพื่อขอถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้

ทั้งนี้ การถอนความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อคุณในการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ ของเรา เช่น การไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่น หรือข้อเสนอใหม่ๆ หรือการไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์ เป็นต้น ดังนั้นเพื่อประโยชน์ของคุณ จึงควรศึกษาและสอบถามถึงผลกระทบก่อนถอนความยินยอม เรายินดีชี้แจงเพื่อให้คุณเข้าใจถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นก่อนดำเนินการ

6.2. สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

คุณมีสิทธิขอทราบและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของเรา หรือขอให้เราเปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลที่คุณไม่ได้ให้ความยินยอมได้

6.3. สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง

คุณมีสิทธิขอให้เราดำเนินการแก้ไข เพื่อให้ข้อมูลถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อนให้เกิดความเข้าใจผิดได้

6.4. สิทธิในการให้โอนย้ายข้อมูล

คุณมีสิทธิขอรับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตนเองจากเราได้ ในกรณีที่เราได้ทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่าน หรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถใช้หรือเปิดเผยได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมถึงสิทธิในการขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังบุคคล/นิติบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เราส่งหรือโอนข้อมูลของคุณในรูปแบบดังกล่าวไปยังบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่ ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิค หรือเรามีเหตุในการปฏิเสธคำขอของคุณโดยชอบด้วยกฎหมาย

6.5. สิทธิในการขอลบข้อมูลส่วนบุคคล

คุณมีสิทธิขอให้เราลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลได้ เช่น ในกรณีที่คุณเชื่อว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นว่าเราหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องในนโยบายฉบับนี้ หรือเมื่อคุณใช้สิทธิขอถอนความยินยอมหรือใช้สิทธิขอคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของตน เป็นต้น

6.6. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเป็นการชั่วคราว

คุณมีสิทธิขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเป็นการชั่วคราว ในกรณีที่เราอยู่ระหว่างตรวจสอบตามคำร้องขอใช้สิทธิขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอคัดค้านของคุณ หรือกรณีอื่นใดที่เราหมดความจำเป็นและต้องลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แต่คุณขอให้เราระงับการใช้แทน

6.7. สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

คุณมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในบางกิจกรรมที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้

6.8. สิทธิในการยื่นเรื่องร้องเรียน

คุณมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในกรณีที่คุณเชื่อว่าเราทำการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่สอดคล้องกับพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ทั้งนี้ การใช้สิทธิของคุณดังกล่าวข้างต้น อาจถูกจำกัดภายใต้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมีบางกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่บริษัทอาจปฏิเสธ หรือไม่สามารถดำเนินการตามคำขอใช้สิทธิข้างต้นของคุณได้ เข่น ต้องปฏิบัติตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล เพื่อประโยชน์สาธารณะ การใช้สิทธิที่อาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เป็นต้น

7. มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

บริษัทมีการกำหนดนโยบาย คู่มือ และมาตรฐานขั้นต่ำในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เช่น มาตรฐานความปลอดภัยของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลของคุณโดยมิได้รับอนุญาตหรือการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทได้มีการปรับปรุงนโยบาย คู่มือ และมาตรฐานขั้นต่ำดังกล่าวเป็นระยะ ๆ ตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด

นอกจากนี้ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทน หรือผู้ให้บริการภายนอกของเรา มีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลตามสัญญารักษาความลับที่ลงนามไว้กับบริษัท

ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศที่มีมาตรฐานการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลต่ำกว่าประเทศไทย บริษัทจะดำเนินมาตรการตามที่เห็นว่าจำเป็นอย่างน้อยตามมาตรฐานการรักษาความลับที่กฎหมายประเทศนั้นๆ กำหนดไว้ เช่น มีข้อสัญญารักษาความลับกับคู่สัญญาในประเทศดังกล่าว เป็นต้น

8. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

ในกรณีที่คุณไม่ได้เป็นลูกค้าของบริษัทอีกต่อไป หรือยุติความสัมพันธ์กับบริษัทไปแล้ว เราจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณตามระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด หรือตามอายุความ หรือตามนโยบาย หรือคู่มือต่าง ๆ ในเรื่องการจัดเก็บ ทำลายเอกสารต่าง ๆ ของบริษัท เช่น พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กำหนดให้จัดเก็บต่อไปอย่างน้อย 10 ปีนับแต่วันที่มีการยุติความสัมพันธ์กับลูกค้า เป็นต้น และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการเก็บรักษาบริษัทจะทำการทำลายข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว

9. การเปลี่ยนแปลงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว

บริษัทอาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว โดยบริษัทจะประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปัจจุบันไว้ที่เว็บไซต์ของบริษัท www.zenithcomp.co.th

10. มีคำถาม ข้อกังวล หรือคำร้องเรียน โปรดติดต่อเรา

หากคุณมีคำถาม หรือข้อกังวลเกี่ยวกับข้อปฏิบัติว่าด้วยความเป็นส่วนตัวของเรา หรือเกี่ยวกับการจัดการบริการ โปรดติดต่อเราได้ที่ :

บริษัท ซีนิธคอมพ์ จำกัด
ตั้งอยู่เลขที่ 388 อาคารเอสพี ชั้น 7 ถนนพหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ 10400
Email : dphelp@zenithcomp.co.th
โทร. : 02-273-0995

ในกรณีที่คุณใช้อีเมลหรือจดหมายเพื่อส่งคำร้องเรียนของคุณ โปรดระบุที่ส่วนหัวเรื่อง หรือวงเล็บไว้ที่มุมซอง ว่าเป็นคำร้องเรียนเกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะช่วยให้เราดำเนินการคำร้องเรียนของคุณโดยเร่งด่วนได้ โดยส่งต่อไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในบริษัทของเราเพื่อดำเนินการต่อไป แน่นอนว่าเราจะพยายามดำเนินการกับคำร้องเรียนหรือข้อข้องใจใด ๆ ที่คุณประสบอยู่อย่างเป็นธรรม และโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

ฉบับเดือนธันวาคม 2563

Zenith Logo