9 สิงหาคม 2567
ในปัจจุบันทุกๆองกรณ์มักจะต้องประสบปัญหาในการบริหารจัดการและป้องกันความเสี่ยงทางด้าน Digital ที่เกิดขึ้นในกรณีต่างๆ เช่น เว็บไซต์ปลอม เพจปลอม แอพลิเคชันปลอม หรือบัญชีผู้ใช้งานปลอม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้งานโดยตรง รวมถึงความน่าเชื่อถือขององค์กร และความยุ่งยากในการแจ้งต่อผู้ให้บริการ Web Hosting, Search Engine หรือ Social Network ให้ทำการปิดเว็บไซต์หรือบัญชีที่ ใช้ข้อมูลขององค์กรไปทำการหลอกลวง หรือทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อภาพลักษณ์ เพราะต้องมีการส่งเอกสารและมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน รวมถึง % ความสำเร็จในการจัดการ จะดีกว่ามั้ยหากมีเครื่องมือที่ช่วยทำสิ่งนี้ให้เองโดยอัตโนมัติ ทั้งการค้นหาคอยตรวจจับ การแจ้งเหตุ รวมถึงการดำเนินการสั่งปิด (Take-Down)
เป็นแพลตฟอร์มที่ขับเคลื่อนโดยปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับการระบุและบรรเทาความเสี่ยงทาง Digital และต่อต้านการโจมตีการแอบอ้างแบรนด์ โดยใช้เทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรของบริษัทเป็นแกนหลัก ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและความสามารถด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของ Group-IB สร้างขึ้นจากประสบการณ์จริงถึง 19 ปีของบริษัทในการสืบสวนอาชญากรรมทางไซเบอร์ทั่วโลก และมากกว่า 70,000 ชั่วโมงของการรับมือและตอบสนองต่อเหตุการณ์ภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่สะสมอยู่ในห้องปฏิบัติการ DFIR ชั้นนำของบริษัท รวมถึงแผนกสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยีขั้นสูง และทีมงาน CERT-GIB ของบริษัทที่บริการช่วยเหลือเหตุฉุกเฉินทางเทคนิคโดยสามารถให้การดูแลได้ตลอดเวลา
Group-IB เป็นพันธมิตรที่ทำงานอย่างแข็งขันในการสืบสวนสอบสวนระดับโลกที่นำโดยองค์กรบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศ เช่น Europol และ INTERPOL นอกจากนั้น Group-IB ยังเป็นสมาชิกของ Europol European Cybercrime Centre (EC3) Advisory Group on Internet Security ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่าง Europol และพันธมิตรชั้นนำที่ไม่ใช่ผู้บังคับใช้กฎหมาย
ประสบการณ์ของ Group-IB ในการตามล่าภัยคุกคามและแสวงหาข่าวกรองทางไซเบอร์ได้หลอมรวมกันเป็นระบบนิเวศของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ที่มีความซับซ้อนสูง ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตรวจสอบ ระบุ และป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ ภารกิจของ Group-IB คือการปกป้องลูกค้าในไซเบอร์สเปซให้มีความมั่นคงปลอดภัยทุกวัน ด้วยการสร้างและใช้ประโยชน์จากโซลูชันและบริการที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ
Group-IB DRP มีฟังก์ชั่นการทำงานที่ทำหน้าที่ต่างๆที่น่าสนใจดังนี้
1. Anti-Scam
ช่วยตรวจจับและจัดการเว็บไซต์ เพจ หรือบัญชีใน Social Network ที่มีการปลอมแปลง โดยใช้ Logo หรือคีย์เวิร์ดหรือชื่อขององค์กรมาแอบอ้าง เพื่อก่อให้เกิดความเสียหายทางด้านการเงิน และชื่อเสียง โดยระบบจะมีการแจ้งเตือนไปยังเจ้าของบัญชีที่แท้จริง เพื่อให้ทำการตรวจสอบเมื่อระบบตรวจพบความผิดปกติ เช่น มีการสร้างบัญชีใน Social App ที่มีการใช้ชื่อเดียวกัน หรือชื่อที่มีความใกล้เคียงกับองค์กร และให้ทางผู้ดูแลทำการ Approve หรือ ดำเนินการ Automatic Take-Down โดยระบบจะประสานงานกับผู้ให้บริการด้านต่างๆ เพื่อลบข้อมูลปลอมเหล่านั้นให้
2. Leak Detection
ช่วยตรวจสอบข้อมูลขององค์กรที่รั่วไหลออกไปตาม Dark Web หรือ Community ของ Hacker ที่มีการนำข้อมูล ขององค์กรไปขาย หรือมีการกล่าวถึงการโจมตีที่กระทำต่อองค์กร
3. VIP Protection
ช่วยตรวจจับและป้องกันบัญชีของบุคคลกรสำคัญขององค์กร เช่น CEO หรือ Business Owner โดยระบบจะทำการแจ้งเตือนเมื่อพบกับบัญชีที่น่าสงสัยที่สุ่มเสี่ยงกับการปลอมแปลง และหลอกลวง เช่นเดียวกัน ระบบสามารถทำการดำเนินการ Take-Down หรือปิดกั้นผู้ใช้งานทั่วไปไม่ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลบัญชีเหล่านี้ได้
โดยภาพรวมแล้ว Group-IB DRP Platform มีฟังก์ชั่นการทำงานต่างๆ เพื่อช่วยให้องค์กร สามารถทราบถึงภัยทาง Digital ที่กำลังคุกคามองค์กร ก่อนที่จะเกิดความเสียหายที่เกินการควบคุม