ปิดช่องโหว่อย่างรวดเร็วด้วย BigFix IVR

10 พฤษภาคม 2566

BigFix Insights for Vulnerability Remediation

จะช่วยเปลี่ยนกระบวนการแก้ไขช่องโหว่จากกระบวนการแบบแมนนวลให้เป็นแบบอัตโนมัติโดยใช้ข้อมูลจากการสแกนช่องโหว่ที่ได้จาก Tenable หรือ Qualys ไปเชื่อมโยงหาความสัมพันธ์กับ Fixlets ของ BigFix พร้อมกับลำดับความสำคัญให้ดูง่ายและแนะนำ BigFix Fixlets สำหรับการแก้ไข และ deploy เพื่อแก้ไขช่องโหว่เหล่านั้น และข้อมูลดังกล่าวยังสามารถนำไปใช้สำหรับ Business Intelligence Reports ได้

•        ลดช่องว่างระหว่างทีมงานรักษาความปลอดภัยและทีมงาน IT Operation และทำให้สามารถแก้ไขช่องโหว่ที่พบได้รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมมาก
•        เชื่อมโยงช่องโหว่ที่ค้นพบโดย Tenable หรือ Qualys กับ BigFix Fixlets และให้คำแนะนำการแก้ไขช่องโหว่โดย BigFix engine
•        ลด gap จากการโดนโจมตีในช่วงเวลาระหว่างการตรวจจับช่องโหว่และการแก้ไขช่องโหว่นั้น
•        ไม่ต้องติดตั้ง agent เพิ่มเติม และไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของ Endpoint หรือ Network ขององค์กร

โดยทั่วไปแล้ว ฝ่ายปฏิบัติการด้านไอทีหรือผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจะใช้เวลา 2-3 นาที สำหรับแต่ละช่องโหว่เพื่อศึกษาและทำการแก้ไข หลังจากได้รับรายงานช่องโหว่ หรือ Common Vulnerabilities and Exposures (CVE®) identified นั้น แต่หากได้รับรายงานช่องโหว่จำนวนหลายรายการก็ยิ่งใช้เวลานานในการแก้ไขช่องโหว่ทั้งหมด ซึ่งยิ่งใช้เวลานานในการแก้ไขก็จะยิ่งทำให้องค์กรตกอยู่ในความเสี่ยงมากยิ่งขึ้น

BigFix Insights for Vulnerability Remediation สามารถช่วยธุรกิจขององค์กร

•        การทำงานระหว่าง IT Security Team และ Operation Team เป็นแบบอัตโนมัติ
•        ลดเวลาในการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยโดยจัดตามลำดับความสำคัญ
•        การปฏิบัติงานแก้ไขช่องโหว่เป็นไปตามข้อกำหนดขององค์กร หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด
•        ลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยขององค์กร ช่วยป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์

BigFix Insights for Vulnerability Remediation (BigFix IVR) สามารถใช้งานได้ในองค์กรที่มี BigFix Lifecycle, BigFix Compliance หรือ BigFix Remediation และใช้ Vulnerability Assessment scan เช่น Tenable หรือ Qualys

Zenith Logo