13 มีนาคม 2568
ปัจจุบันรูปแบบการทำงานขององค์กรมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก หลายองค์กรเปิดโอกาสให้พนักงานทำงานจากที่ใดก็ได้ หรือใช้แนวทางการทำงานแบบ Hybrid อย่างไรก็ตาม ความปลอดภัยในการเข้าถึงเครือข่ายจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือยังคงเป็นประเด็นสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจได้ ดังนั้น การมีระบบควบคุมความปลอดภัยที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชันและข้อมูลได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะอยู่ที่สำนักงาน ที่บ้าน หรือระหว่างเดินทาง จึงเป็นสิ่งจำเป็น
Aruba Central ช่วยลดความซับซ้อนของกระบวนการนี้ด้วย Cloud Authentication (Cloud Auth) ที่ทำงานร่วมกับ Policy การเข้าถึงแบบปรับแต่งได้ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัย ควบคุมการเข้าถึง และบริหารจัดการผู้ใช้ในเครือข่ายได้อย่างครอบคลุม ตั้งแต่ระดับ Edge ไปจนถึง Cloud
1. ใช้โครงสร้างพื้นฐานแบบ Cloud-Native
- ไม่ต้องพึ่งพาเซิร์ฟเวอร์หรือระบบ NAC ภายในองค์กร ลดภาระการดูแลระบบของฝ่าย IT
- ให้มุมมอง (Visibility) และจุดควบคุม (Control) เดียวสำหรับการบริหารจัดการอุปกรณ์เครือข่ายและนโยบายความปลอดภัย
2. รองรับการเชื่อมต่อกับ Cloud Identity Stores
- ผสานการทำงานกับ Google Workspace และ Azure Active Directory เพื่อยืนยันตัวตนของผู้ใช้
- สร้างกระบวนการ Single Sign-On (SSO) ให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินด้วยบัญชีที่คุ้นเคยได้อย่างง่ายดาย
3. AI-based Client Insights และ MAC-based Authentication
- ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้และอุปกรณ์ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับภัยคุกคาม
- รองรับ MAC-based Auth สำหรับการระบุตัวตนอุปกรณ์ (เช่น อุปกรณ์ IoT หรืออื่น ๆ)
- เพิ่มความปลอดภัยมากกว่าใช้ MAC Address เดี่ยว ๆ เพราะมีการตรวจสอบเชิงลึกต่อเนื่อง
4. Multi Pre-Shared Keys (MPSK)
- มอบประสบการณ์ Onboarding ที่สะดวกโดยไม่ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า (Pre-registration)
- ผู้ดูแลระบบสามารถสร้างรหัสผ่านแยกเฉพาะสำหรับผู้ใช้แต่ละคน ช่วยให้การตรวจสอบสิทธิ์และการจัดการอุปกรณ์มีประสิทธิภาพ
5. Aruba Onboard Client App
- แอปพลิเคชันที่รองรับ macOS, Windows, iOS, Android
- ช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อเครือข่ายได้อัตโนมัติ (Auto-renewal) เมื่อเดินเข้ามาในพื้นที่เครือข่าย โดยระบบจะบังคับใช้นโยบายตามที่ผู้ดูแลตั้งค่าไว้
6. Aruba Air Pass
- โซลูชัน Seamless Cellular Roaming ที่รวมการทำงานระหว่างเครือข่าย Wi-Fi และเครือข่ายมือถือ (MNOs)
- ผู้มาติดต่อหรือแขก (Guest) สามารถเชื่อมต่อ Wi-Fi ขององค์กรได้ทันทีโดยใช้การยืนยันตัวตนผ่านผู้ให้บริการมือถือ (ปัจจุบันเปิดให้บริการแค่ในสหรัฐอเมริกา)
7. การสร้างนโยบายแบบละเอียด (Granular Policy)
- ผู้ดูแลสามารถกำหนดนโยบายการเข้าถึงตาม Tag ของผู้ใช้หรืออุปกรณ์ เช่น ประเภท OS, ลักษณะการใช้งาน, หรือบทบาทในองค์กร (เช่น พนักงาน, แขก, IoT, Network, Finance หรือ HR)
- หากระบบตรวจพบการเปลี่ยน Tag (เช่น อุปกรณ์เปลี่ยนสถานะจาก Guest เป็น Corporate) จะตัดการเชื่อมต่อโดยอัตโนมัติและกำหนดนโยบายใหม่ที่เหมาะสม
8. Authentication Dashboard และการทำ Troubleshooting
- Aruba Central มีหน้าจอ Dashboard ให้ผู้ดูแลสามารถตรวจสอบความสำเร็จ/ความล้มเหลวของการขอสิทธิ์ (Auth Request) เหตุผลในการถูกปฏิเสธ (Reject Reason) หรือข้อมูลปริมาณการใช้งาน (Session Usage) ได้ในที่เดียว
- ลดเวลาในการแก้ไขปัญหา (Troubleshooting) และทำให้การดูแลเครือข่ายในภาพรวมมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
1. ยกระดับความปลอดภัย
- รองรับ Zero-Trust Security จากการตรวจสอบตัวตนอย่างต่อเนื่อง (Continuous Validation) และ AI-Based Insights
- มีการจัดการนโยบายที่ยืดหยุ่นตามประเภทผู้ใช้และอุปกรณ์
2. รองรับการทำงานแบบ Hybrid และ Remote อย่างแท้จริง
- ให้ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ราบรื่น ไม่ว่าพนักงานจะอยู่ที่ออฟฟิศหรือทำงานจากระยะไกล
- ปรับแต่งการเข้าถึงเครือข่ายให้เหมาะสมสำหรับพนักงานและแขกในสถานที่เดียวกัน
3. ลดภาระและต้นทุนด้าน IT
- ไม่ต้องติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ NAC หรือโครงสร้างพื้นฐานการยืนยันตัวตนในสถานที่ (On-Prem)
- ใช้ Dashboard กลางเพื่อควบคุมนโยบาย บริหารผู้ใช้ และติดตามการใช้งาน
4. ปรับปรุงประสบการณ์ในการเข้าใช้เครือข่าย
- Multi Pre-Shared Keys (MPSK) ช่วยให้การเชื่อมต่อของผู้ใช้หลายรายในอุปกรณ์ต่างๆเป็นไปอย่างง่ายดาย
- Aruba Onboard App ติดตั้งโปรไฟล์ครั้งเดียว ใช้งานได้ต่อเนื่อง
5. สอดคล้องกับมาตรฐานระดับองค์กร
- ผ่านกลไกการตรวจสอบแบบละเอียด (Granular Visibility)
- รองรับข้อกำหนดด้านความปลอดภัย เช่น การเก็บบันทึก (Logging), การวิเคราะห์ (Monitoring) และนโยบายภาครัฐ/องค์กร
Aruba Central Cloud Authentication & Policy ทำให้องค์กรบริหารจัดการเครือข่ายเป็นเรื่องง่าย ด้วย Function การยืนยันตัวตนแบบคลาวด์ (Cloud Auth), Granular Policy Automation, และ การวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ด้วย AI เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความคล่องตัวในการทำงานยุคใหม่ที่พนักงานสามารถทำงานระยะไกล ไม่ว่าจะพนักงานประจำ ผู้มาติดต่อ หรืออุปกรณ์ IoT ก็สามารถ Onboard และได้รับนโยบายความปลอดภัยที่เหมาะสมทันที นอกจากนี้ องค์กรขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีพนักงานฝ่าย IT อยู่อย่างจำกัดจะได้ประโยชน์จาก Workflow ที่ช่วยให้การดูแลเครือข่ายเป็นไปอย่างรวดเร็วและเรียบง่าย ลดภาระด้านการติดตั้งเซิร์ฟเวอร์ยืนยันตัวตน และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยได้อย่างเต็มรูปแบบ