Fortinet SIEM และ SOAR: ยกระดับความปลอดภัยทางไซเบอร์ขององค์กร

11 กันยายน 2568

ในยุคที่ภัยคุกคามทางไซเบอร์มีความซับซ้อนและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ การมีระบบป้องกันที่แข็งแกร่งเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ องค์กรต่างๆ จึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือที่ช่วยในการตรวจจับ วิเคราะห์ และตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งโซลูชัน SIEM (Security Information and Event Management) และ SOAR (Security Orchestration, Automation, and Response) ของ Fortinet คือคำตอบที่ตอบโจทย์นี้ได้อย่างครบวงจร

ภาพรวมของ Fortinet SIEM และ SOAR

Fortinet นำเสนอโซลูชันด้านความปลอดภัยที่ทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ โดย FortiSIEM และ FortiSOAR เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการกับข้อมูลด้านความปลอดภัยจำนวนมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• FortiSIEM: ทำหน้าที่เสมือน "สมอง" ที่รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลด้านความปลอดภัยจากทุกจุดในเครือข่าย ทั้งจากอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย เซิร์ฟเวอร์ แอปพลิเคชัน และอื่นๆ เพื่อสร้างมุมมองแบบครบวงจร (Unified View) ทำให้สามารถตรวจจับความผิดปกติและภัยคุกคามที่ซ่อนอยู่ได้
• FortiSOAR: ทำหน้าที่เสมือน "แขนขา" ที่ช่วยให้การตอบสนองต่อภัยคุกคามเป็นไปอย่างอัตโนมัติและรวดเร็ว โดยใช้ Playbook และระบบ Automation เพื่อจัดการกับเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยที่เกิดขึ้นซ้ำๆ หรือมีปริมาณมาก ช่วยลดภาระงานของนักวิเคราะห์ความปลอดภัย

FortiSIEM: การจัดการข้อมูลและเหตุการณ์อย่างชาญฉลาด

FortiSIEM เป็นโซลูชันที่ออกแบบมาเพื่อจัดการกับข้อมูลจำนวนมหาศาล (Big Data) จากทั่วทั้งเครือข่าย โดยมีคุณสมบัติที่โดดเด่นดังนี้:

1. การรวบรวมและสร้างความสัมพันธ์ของข้อมูล (Data Aggregation & Correlation)

• การรวบรวมข้อมูล: FortiSIEM สามารถรวบรวม Log และ Event ต่างๆ จากอุปกรณ์หลากหลายประเภท เช่น Firewall, IDS/IPS, Endpoint, เซิร์ฟเวอร์, และอุปกรณ์เครือข่ายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นของ Fortinet หรือแบรนด์อื่นๆ
• การสร้างความสัมพันธ์: ด้วย Machine Learning และเทคนิคการวิเคราะห์ขั้นสูง FortiSIEM จะนำข้อมูลที่รวบรวมมาสร้างความสัมพันธ์ (Correlation) เพื่อระบุรูปแบบการโจมตีที่ซับซ้อน เช่น การโจมตีแบบ Multi-stage ซึ่งการดู Log จากอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งเพียงอย่างเดียวอาจตรวจไม่พบ

2. การตรวจสอบและการแจ้งเตือนแบบเรียลไทม์ (Real-time Monitoring & Alerting)

• Dashboard แบบครบวงจร: ผู้ดูแลระบบสามารถดูสถานะความปลอดภัยของเครือข่ายได้แบบเรียลไทม์ผ่าน Dashboard ที่ปรับแต่งได้ แสดงข้อมูลสำคัญ เช่น เหตุการณ์ที่ผิดปกติ, การแจ้งเตือน, และสถานะของอุปกรณ์ต่างๆ
• การแจ้งเตือนอัตโนมัติ: เมื่อ FortiSIEM ตรวจพบกิจกรรมที่เข้าข่ายเป็นภัยคุกคาม ระบบจะส่งการแจ้งเตือนไปยังผู้รับผิดชอบทันทีผ่านช่องทางต่างๆ เช่น อีเมล, SMS, หรือการแจ้งเตือนบนหน้าจอ เพื่อให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถตรวจสอบและดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว

FortiSOAR: ระบบอัตโนมัติเพื่อการตอบสนองที่รวดเร็ว

FortiSOAR มุ่งเน้นไปที่การลดเวลาในการตอบสนอง (Mean Time to Respond) ต่อเหตุการณ์ด้านความปลอดภัย โดยเปลี่ยนกระบวนการที่ซับซ้อนให้เป็นระบบอัตโนมัติ

1. การจัดการ Playbook และ Automation

• Playbook: คือชุดคำสั่งและขั้นตอนที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เฉพาะเจาะจง เช่น เมื่อตรวจพบมัลแวร์ Playbook อาจสั่งให้ FortiSOAR ทำการกักกัน Endpoint ที่ติดเชื้อโดยอัตโนมัติ, แจ้งเตือนผู้ดูแลระบบ, และสร้างรายงานเหตุการณ์
• Automation: FortiSOAR สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์และแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้อย่างราบรื่น ทำให้สามารถสั่งการหรือดึงข้อมูลจากเครื่องมือต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ เช่น สั่งให้ FortiGate Block IP Address ที่เป็นอันตราย หรือดึงข้อมูลจาก Threat Intelligence Platform เพื่อตรวจสอบความน่าเชื่อถือของไฟล์

2. การทำงานร่วมกันของทีม (Team Collaboration)

• Case Management: FortiSOAR มีระบบจัดการเคส (Case Management) ที่ช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ละเหตุการณ์จะถูกเปิดเป็นเคส เพื่อให้สมาชิกในทีมสามารถติดตามความคืบหน้า, มอบหมายงาน, และบันทึกข้อมูลการตรวจสอบได้ในที่เดียว
• การสร้างรายงาน: ระบบสามารถสร้างรายงานสรุปเหตุการณ์ (Incident Report) ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดเวลาในการจัดทำเอกสารและทำให้ข้อมูลที่ใช้ในการตัดสินใจมีความถูกต้องและครบถ้วน

ประโยชน์ที่ได้รับเมื่อนำ Fortinet SIEM และ SOAR มาใช้

1. การตรวจจับภัยคุกคามที่แม่นยำขึ้น: ด้วยความสามารถของ FortiSIEM ในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่ง ทำให้สามารถตรวจจับการโจมตีที่ซับซ้อนซึ่งอาจถูกมองข้ามได้
2. ลดเวลาในการตอบสนอง (MTTR): FortiSOAR ช่วยลดภาระงานซ้ำๆ และเร่งกระบวนการตอบสนองให้เป็นไปอย่างอัตโนมัติ ทำให้สามารถหยุดยั้งภัยคุกคามได้ก่อนที่จะสร้างความเสียหายในวงกว้าง
3. เพิ่มประสิทธิภาพของทีมงาน: การใช้ Automation ใน FortiSOAR ช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยมีเวลามากขึ้นในการวิเคราะห์ภัยคุกคามเชิงลึกและวางแผนป้องกัน แทนที่จะหมดไปกับการจัดการงานประจำ
4. มุมมองความปลอดภัยแบบครบวงจร: การทำงานร่วมกันของ FortiSIEM และ FortiSOAR ช่วยให้ผู้บริหารและทีมงานมีความเข้าใจที่ชัดเจนเกี่ยวกับสถานะความปลอดภัยขององค์กร ทำให้การตัดสินใจด้านความมั่นคงปลอดภัยเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

ทำไมต้องเลือก Fortinet?

การเลือกใช้โซลูชันด้านความปลอดภัยจาก Fortinet มีข้อดีหลายประการที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่น ดังนี้
1. การทำงานร่วมกันอย่างครบวงจร (Integrated Security Fabric): Fortinet มีระบบนิเวศ (Ecosystem) ของผลิตภัณฑ์รักษาความปลอดภัยที่หลากหลาย ตั้งแต่ Firewall (FortiGate), Endpoint Security (FortiClient), ไปจนถึง SIEM และ SOAR ทั้งหมดถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและอัตโนมัติ ทำให้การจัดการและการตอบสนองต่อภัยคุกคามเป็นไปอย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพสูง
2. ลดความซับซ้อน (Reduce Complexity): การใช้โซลูชันจากผู้จำหน่ายรายเดียวช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการและการผสานรวมระบบ (Integration) ระหว่างอุปกรณ์ต่างยี่ห้อ ทำให้ผู้ดูแลระบบไม่ต้องเสียเวลาในการเชื่อมต่อหรือแก้ไขปัญหาความไม่เข้ากันของระบบ
3. นวัตกรรมและการวิจัยอย่างต่อเนื่อง: Fortinet มีทีมวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่ง ทำให้ผลิตภัณฑ์ได้รับการอัปเดตและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือกับภัยคุกคามใหม่ๆ ได้อย่างทันท่วงที รวมถึงการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง AI และ Machine Learning ในผลิตภัณฑ์ของตนเอง

นอกจากนี้ การที่ Fortinet มีโซลูชันแบบครบวงจรยังช่วยลดต้นทุนในภาพรวมได้ เมื่อเทียบกับการต้องซื้อและติดตั้งโซลูชันจากหลายผู้ผลิต และช่วยให้ทีมงานสามารถบริหารจัดการระบบรักษาความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

รางวัลสำหรับ FortiSIEM และ FortiSOAR

• Gartner Peer Insights™ Customers' Choice: Fortinet ได้รับการยกย่องให้เป็น Gartner Peer Insights™ Customers' Choice สำหรับโซลูชัน SIEM ในปี 2024 และสำหรับโซลูชัน SOAR ในปี 2025 ซึ่งรางวัลนี้สะท้อนถึงความพึงพอใจและความไว้วางใจที่ลูกค้ามีต่อ Fortinet โดยอิงจากการให้คะแนนและรีวิวของผู้ใช้งานจริง
• KuppingerCole Leadership Compass: Fortinet ได้รับการจัดอันดับให้เป็น #1 Innovator และเป็น Leader ในรายงาน 2024 KuppingerCole Leadership Compass for SOAR ซึ่งเป็นการยอมรับถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและความสามารถของผลิตภัณฑ์ในตลาด SOAR
• ความพึงพอใจและคะแนนรีวิวสูง: Fortinet ได้รับคะแนนความพึงพอใจสูงจากผู้ใช้งาน โดย FortiSOAR ได้รับคะแนนแนะนำจากผู้รีวิวถึง 98% และ FortiSIEM ได้รับคะแนนบวกในทุกหมวดหมู่ เช่น ความสามารถของผลิตภัณฑ์ การสนับสนุน และความเต็มใจของผู้ใช้ที่จะแนะนำ

รางวัลที่ได้จากแพลตฟอร์มอย่าง Gartner Peer Insights™ นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากไม่ได้มาจากการประเมินของนักวิเคราะห์เพียงอย่างเดียว แต่มาจาก ข้อเสนอแนะที่แท้จริงจากลูกค้า ที่ใช้งานผลิตภัณฑ์โดยตรง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าโซลูชันของ Fortinet สามารถแก้ไขปัญหาและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์จริง

Fortinet SIEM และ SOAR เหมาะกับใคร?

1. ผู้บริหารและผู้จัดการด้าน IT/Security: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการภาพรวมที่ชัดเจนของสถานะความปลอดภัยขององค์กร เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ และเพื่อให้แน่ใจว่าการลงทุนด้านความปลอดภัยเป็นไปอย่างคุ้มค่า
2. ทีมรักษาความปลอดภัย (Security Analysts): เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทีมงานที่ต้องรับมือกับเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยจำนวนมากในแต่ละวัน โซลูชันนี้จะช่วยลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน ทำให้มีเวลามากขึ้นในการวิเคราะห์ภัยคุกคามเชิงลึก
3. องค์กรที่ต้องการยกระดับศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัย (SOC - Security Operations Center): Fortinet SOAR ช่วยให้ SOC สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเปลี่ยนกระบวนการที่ต้องทำด้วยคนให้เป็นระบบอัตโนมัติ ทำให้การตอบสนองรวดเร็วขึ้นหลายเท่า

ดังนั้น SIEM และ SOAR ของ Fortinet จึงมีความสำคัญตรงที่ช่วยให้องค์กรสามารถตรวจจับ วิเคราะห์ และตอบสนองต่อภัยคุกคามได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย FortiSIEM ทำหน้าที่รวบรวม วิเคราะห์ และเชื่อมโยงข้อมูลเหตุการณ์จากอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ เพื่อให้เห็นภาพรวมด้านความปลอดภัยแบบเรียลไทม์ ขณะที่ FortiSOAR จะช่วยทำให้องค์กรตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้อย่างอัตโนมัติ รวดเร็ว และลดภาระงานที่ซ้ำซ้อนของทีม SOC เมื่อผสานการทำงานเข้าด้วยกัน องค์กรจะได้ทั้งการมองเห็นที่ชัดเจน การตัดสินใจบนข้อมูลที่ถูกต้อง และการจัดการภัยคุกคามอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด.

Zenith Logo